Last updated: 2019-06-05 | 121 จำนวนผู้เข้าชม |
ปวดข้อ ปวดเข่า ปวดขา
กระดูกมีปัญหา "งา" ช่วยได้
.
.
งาถูกนำมาใช้ทั่วโลกกว่า 5,000 ปีโดยแพทย์ชาวจีน อินเดีย
และกลุ่มนักธรรมชาติบำบัดทางฝั่งตะวันตก
ในการนำมาใช้ทั้งภายในและภายนอกร่วมกันในโรคที่เกี่ยวกับกระดูก
งาเป็นธัญพืชที่มีน้ำมันมาก จนได้รับสมญาว่า...
"ราชีนีแห่งพืชน้ำมัน ราชันย์แห่งธัญพืช"
เมื่อวิทยาศาสตร์เจิญก้าวหน้าขึ้น
นักวิจัยด้านสุขภาพทั่วทุกมุมโลกสงสัยว่า...
ทำไมงาเม็ดเล็กๆ ถึงมีประโยชน์มาก
จึงลงมือวิจัยอย่างละเอียดจึงได้ค้นพบแล้วว่า
ในงานั้นมีคุณประโยชน์มากมายกว่าที่คิด
เพราะค้นพบสารเซซามิน เซซามอล เซซาโมลิน
ซึ่งเป็นสารเฉพาะตัวที่พบในงาเท่านั้น
ในงาดำ งาขาว งาแดง งาม้อนหรืองาขี้ม้อน
ที่มีสรรพคุณสูงในการช่วยยับยั้งการทำงานของ
สารอินเตอร์ลิวติน-1 เบต้า (Interleukin-1 Beta หรือ IL-1 Beta)
ซึ่งสาร IL-1 นี้เป็นตัวการที่ก่อให้เกิดการสลายของกระดูกอ่อน
และการอักเสบ
และที่สำคัญมากๆ คือ สารสำคัญในงา โอเมก้า 3 6 9
ได้แปลงสภาพคอลอเรสตรอรอลที่ดีต่อร่างกาย
นำไปสร้างน้ำหล่อเลี้ยงในข้อและช่วยสร้างกระดูกอ่อน
งามีแคลเซียมสูงมากกว่านมหลายเท่า และมีครบทั้งแมกนีเซียม
โพสแทสเซียม ธาตุเหล็ก สังกะสี แมงกานีส
แร่ธาตุเหล่านี้ต้องมีในการช่วยให้แคลเซียมดูดจับได้ดี
หากไม่มีธาตุเหล่านี้แคลเซียมก็จะไม่ช่วยอะไรกับกระดูกเลย
วิตามินอีที่สูงที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
ที่เป็นตัวการของโรคเสื่อมและการอักเสบ
ตัวอนุมูลอิสระเป็นจุดเริ่มต้นของโรคร้ายต่างๆ ทั้งข้อเสื่อม กระดูกพรุน
โรคหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ มะเร็งชนิดต่างๆ มากมาย
จึงเป็นคำตอบว่า
ทำไมเรื่องปวดเข่า ปวดข้อ ปวดขา "งา" ช่วยได้นั่นเอง
สรุปง่ายๆ ก็คือ สารสำคัญและแร่ธาตุหลายชนิดทำงานร่วมกันอย่างดี
ในการช่วยลดการอักเสบ การเพิ่มน้ำในข้อ และมวลกระดูก
และป้องกันความเสื่อมของกระดูกไปพร้อมกันนั่นเอง
เป็นสิ่งมหัศจรรย์จากธรรมชาติที่ควรรู้
และอาหารคือยาที่ดีจากธรรมชาติ
Feb 04, 2021
Feb 24, 2021